วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

PHP

<body>
<?php
$score=79;
if($score<49){
echo 'grade 0';
}else if($score<54){
echo'grade 1';
}else if($score<59){
echo'grade 1.5';
}else if($score<64){
echo'grade 2';
}else if($score<69){
echo'grade 2.5';
}else if($score<74){
echo'grade 3';
}else if($score<79){
echo'grade 3.5';
}else{echo 'grade4';}
?>
</body>
</html>

วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

Iron Chef Thailand - Battle Flowers (ดอกไม้) 1

                       มาดูตัวอย่างในการทำอาหารพร้อมการตกเเต่งจานที่จะทำให้อาหารดูน่ากินเเละอร่อยยิ่งขึ้น

Iron Chef Thailand - Battle Flowers (ดอกไม้) 2

   เเละมาต่อกันอีกกับการทำอาหารเเละการตกเเต่งจานที่จะทำให้อาหารอร่อยเพิ่มขึ้น



วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2556

 
การปรุงแต่งรสชาติและกลิ่นของอาหาร

                  การปรุงแต่งอาหารด้วยเครื่องปรุงบางชนิด ทำให้รสชาติของอาหารเปลี่ยนไปได้ หรือการเสริมเครื่องปรุงบางชนิดในอาหาร ก็ทำให้อาหารเหล่านั้นรสดีขึ้นได้เช่นกัน อาหารไทยมีคุณสมบัติพิเศษ ที่สามารถปรุงแต่งรสชาติ กลิ่น สีให้ชวนรับประทานได้มาก ตัวอย่างเช่น

                  การทำอาหารคาว เช่น น้ำพริกเผา ต้องเผาเครื่องปรุงทุกชนิดให้สุกเสียก่อน (ปัจจุบันใช้ทอด) จึงนำมาปรุงได้ น้ำพริกปลาร้า ต้องเผาหอม กระเทียม พริกอ่อนเช่นกัน แม้กระทั่งการทำน้ำพริกกะปิ ก็นิยมเผากะปิให้หอมเสียก่อน จึงนำไปปรุง เป็นต้น

การทำอาหารหวาน มีการเสริมรสให้เด่นขึ้น โดยนำไปอบให้หอม การอบอาหารให้หอมมี ๒ วิธี คือ การอบแห้ง และการอบน้ำ

การอบเเห้ง


๑. การอบแห้ง

                    ได้แก่ การนำดอกมะลิสด กุกลาบสด หรือดอกกระดังงาลนไฟ ใส่ลงในภาชนะที่บรรจุขนมที่ทำสุกแล้ว ปิดฝาให้สนิท หรืออบด้วยควันเทียน โดยจุดเทียนอบให้ติดสักครู่ แล้วดับเทียน เทียนที่ดับแล้ว จะมีควันคลุ้งอยู่ นำเทียนที่ควันคลุ้ง ใส่ลงในภาชนะที่บรรจุขนม อบไว้ ๑ คืน ขนมที่นิยมอบด้วยดอกไม้สด หรือควันเทียน ได้แก่ ขนมกลีบลำดวน ข้าวตูเป็นต้น
 
 
 
การอบน้ำ

๒. การอบน้ำ

                     ต้องใช้น้ำสะอาดใส่ลงในภาชนะ นำดอกมะลิ หรือกุลาบสด ใส่ลงไปให้มีท่าว่างพอสมควร ปิดฝาทิ้งไว้ ๑ คืน รุ่งเช้าจึงหยิบดอกไม้ออก น้ำที่อบใช้ทำขนมต่างๆ ได้แก่ ถั่วกวน ขนมชั้น หรือน้ำเชื่อม ทำให้มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน

                     พืชบางชนิด เช่น ใบเตย ดอกอัญชัน เปลือกมะพร้าวเผา เป็นต้น สามารถนำมาคั้นหรือแช่น้ำ ใช้ใส่ขนม เพื่อช่วยให้มีสีสวยงาม และมีกลิ่นหอม

                        นอกจากนี้ ยังมีสิ่งสำคัญอีกชนิดหนึ่ง ที่ช่วยเพิ่มความสวยงาม ทำให้อาหารมีรูปทรงน่ารับประทานยิ่งขึ้น สิ่งนั้นคือ น้ำปูนใส

                        อาหารคาวบางชนิดที่ประกอบขึ้นจากการชุบแป้ง เช่น กุ้งชุบแป้งทอด ไก่ทอด หรือผักชุบแป้งทอด หากใช้น้ำปูนใสผสมลงในแป้ง เมื่อทอดแล้ว จะทำให้อาหารชนิดนี้น่ารับประทาน และกรอบอร่อย

                        อาหารหวานหลายชนิดที่ปรุงขึ้นจากแป้ง เช่น ขนมเปียกปูน ลอดช่อง เมื่อผสมด้วยน้ำปูนใส จะทำให้มีกลิ่นหอม ขนมบางชนิด เช่น กล้วยเชื่อม มันเชื่อม ฯลฯ ถ้าแช่ด้วยน้ำปูนใส จะทำให้ชิ้นขนมคงรูป หรือแม้กระทั่งของรับประทานเล่นอื่นๆ เช่น มะม่วงดอง มะม่วงแช่อิ่ม มะดันแช่อิ่ม มะกอก แช่อิ่ม ผลไม้ที่ใช้ทำอาหารเหล่านี้ หากนำไปแช่ด้วยน้ำปูนใส นอกจากจะช่วยให้กรอบแล้ว ยังช่วยให้มีความอยู่ตัวอีกด้วย

ต่อกันอีกกับอาหารประจำ10 ชาติอาเซียน

เวียดนาม (Vietnam)

 
Nem หรือ เปาะเปี๊ยะเวียดนาม
 
มาเลเซีย (Malaysia)

 

 
นาซิ เลอมัก (Nasi Lemak)
 
ลาว (Loas)


 
ซุบไก่ (Chicken Soup)
 
อินโดนีเซีย (Indonesia)

 
กาโด กาโด (Gado Gado)
 
กัมพูชา (Cambodia)
 
 

 
 
 อาม็อก (Amok)
 

 
 บรูไน ดารุสซาลาม (Brunei Darussalam)
 
 
อัมบูยัต (Ambuyat)

วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556


วันนี้เราจะมาเเนะนำถึงอาหารประจำชาติต่างๆในอาเซียน เพื่อความทันสมัยหน่อยเเหละกัน

ประเทศไทย (Thailand)



ต้มยำกุ้ง (Tom Yam Goong)
 
พม่า (Myanmar)
 
 
 
หล่าเพ็ด (Lahpet)
 
สิงคโปร์ (Singapore)


 
ลักสา (Laksa) เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำ (ใส่กะทิ)
 
ฟิลิปปินส์ (Philippines)
 

อโดโบ้ (Adobo)
 
 
 
 
 
 
          ความแตกต่างระหว่างอาหารไทยกับอาหารชาติอื่น

อาหารของชนชาติอื่นที่คนไทยรู้จักมักคุ้น ได้แก่ อาหาร จีน แขก ฝรั่ง และญี่ปุ่น เป็นต้น

อาหารจีน



                            อาหารจีนมีรสจืดเป็นส่วนใหญ่ ประกอบด้วยอาหารที่เป็นน้ำคือ แกงจืด เป็นอาหารหลัก นอกจากนั้นก็มีอาหารที่ปรุงด้วยการผัด ทอด และนึ่ง

อาหารยุโรป



                            อาหารฝรั่งมีรสกลมกล่อม อาจมีรสเผ็ด ที่ได้จากพริกไทย และมัสตาร์ดบ้าง ไขมันได้จาก เนย ส่วนคุณค่าอย่างอื่นได้จากผักและเนื้อสัตว์ ชาวตะวันตกนิยมรับประทานเนื้อสัตว์เป็นชิ้นใหญ่ๆ เพื่อเสริมสร้างพลังงาน

อาหารญี่ปุ่น
 

                          อาหารญี่ปุ่น มีรสเค็มและหวานเป็นส่วนใหญ่ ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานปลามากกว่าอย่างอื่น

อาหารอินเดีย
 
                          อาหารแขก มีรสเผ็ดร้อน และใส่เครื่องเทศมากกว่าอาหารชาติอื่นๆ
               วันนี้จะมาเเนะนำเเละยกตัวอย่างอาหารแต่ละทวีปที่มีทั้งความเหมือน เเละความเเตกต่างให้ดูกัน !

อาหารในทวีปยุโรป

 
อาหารยุโรปเป็นอาหารประเภทหนึ่งที่มีแพร่หลายในประเทศไทย เนื่องจากการรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกมาหลายร้อยปี แรกเริ่มจากสังคมชั้นสูงก่อน ดังจะเห็นได้ว่าปัจจุบันการหาอาหารยุโรปมารับประทานนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เนื่องจากมีร้านอาหารยุโรปเปิดบริการกันเป็นจำนวนมาก การออกแบบภัตตาคารและการจัดร้านมีเอกลักษณ์แบบยุโรปชั้นสูงเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ
อาหารยุโรปเต็มรูปแบบจะถูกนำมาเสิร์ฟทีละอย่าง ๆ ตามลำดับ ไม่ได้นำมาวางพร้อมกันกลางโต๊ะอาหารแบบอาหารไทย การรับประทานนั้นก็จะรับประะทานทีละอย่าง ๆ ตามลำดับจนจบ การจัดโต๊ะ การเตรียมอุปกรณ์รับประทานอาหาร เช่นส้อมและมีดจะเปลี่ยนไปตามอาหารนั้น ๆ และจะถูกจัดวางไว้เป็นระเบียบเรียบร้อนก่อนบนโต๊ะอาหาร เวลาที่จะรับประทานก็ใช้เครื่องมือชิ้นที่จัดวางไว้ด้านนอกสุดไล่เข้ามาตามลำดับ ส่วนของหวานช้อนส้อมจะวางไว้บนเหนือสุด ด้านบนของจาน

วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556

เเละวันนี้เราก็จะมารู้ถึงปัจจัยจ่างๆในการจัดจานว่ามีอะไรบ้างที่มีส่วนในการช่วยในการจัดจานให้เกิดความสวยงามน่ารับประทาน

ปัจจัยอื่นๆ ในการจัดจาน


ส่วนผสมที่ออกมาจากพิมพ์เดียวกัน
ส่วนผสมที่ตัดหรือแกะสลักด้วยความชำนาญสามารถเพิ่มเสน่ห์ทางสายตาให้แก่อาหารได้ หั่นสไลซ์ชิ้นเนื้อไม่มีกระดูกแนวเฉียงเพื่อแสดงการทำอาหารและคุณภาพอย่างดี อาหารที่แกะสลักยังช่วยสร้างความสูงและโครงสร้างและทำให้จานดูสะอาดเรียบร้อยอีกด้วย

ซอส

สร้างลักษณะเฉพาะในรูปของจุดต่างๆ บนด้านข้างของจานหรือทำให้เป็นเอกลักษณ์บนด้านใดด้านหนึ่งของจาน เมื่อเทซอส ให้เทเบาๆ หรือทำให้ซอสเป็นละอองบนจาน จะทำไว้เหนืออาหารหรือใต้อาหารก็ได้


ของตกแต่งจาน
ของตกแต่งจานจะทำหน้าที่เป็นตัวเน้นเพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวาหรือเน้นสีสันของอาหารจานหลัก มีไว้เพื่อเพิ่มและให้เข้ากับรสชาติของอาหารจานนั้น ไม่ใช่กลบ เรามีแนวทางง่ายๆ ในการใช้ของตกแต่งจานดังต่อไปนี้
  •        หลีกเลี่ยงการกองสุมของตกแต่งจานตรงมุมจานเพียงมุมเดียว
  •       สร้างสีสันและรูปทรงที่ฉูดฉาดโดยจัดของตกแต่งจานรอบๆ อาหารจานหลัก
  •       ของตกแต่งควรเป็นสิ่งที่ทานได้เสมอ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ดอกผักชีฝรั่ง เลมอนทวิสต์ แท่งอบเชย หรือสมุนไพรดิบ
  •      ของตกแต่งควรจัดลงจานอย่างรวดเร็วเพื่อให้เสิร์ฟอาหารถึงโต๊ะได้ในขณะที่ยังอุ่นอยู่




วันนี้เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดจานอาหารบนจานที่จะทำให้การกินอาหาร
ของคุณมีความอร่อยมายิ่งขึ้น

การจัดจานสำหรับอาหารเอเชีย


อาหารส่วนรวม
การแบ่งปันกันเป็นเรื่องทั่วไปในการทานอาหารในเอเชีย แม้ว่าจะท้าทายในการจัดจาน แต่คุณยังสามารถใช้ของตกแต่งจานที่ดูดีสวยงามและชามหรือภาชนะที่น่าสนใจได้ เช่น เรือกลไฟ เข่งติ่มซำและแม้กระทั่งใบตองเพื่อทำให้การจัดแสดงดูเด่นยิ่งขึ้น


อาหารส่วนตัว
เมื่อร้านอาหารเอเชียรับสไตล์ทันสมัยมาใช้มากขึ้น การเสิร์ฟอาหารสำหรับทานคนเดียวที่มีขนาดเล็กลงก็เริ่มพบได้ทั่วไปมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะจัดจานอาหารประเภทนี้ ให้ใช้เทคนิคการจัดแสดงแบบตะวันตก


อาหารจานเดียว
อาหารยอดนิยมในท้องถิ่นอย่างเช่น
 Nasi Lemak คือมื้ออาหารที่สมบูรณ์ แป้งมักจะถูกจัดลงตรงกลางจาน วางทับด้วยโปรตีน ส่วนผักวางรอบๆ ด้านข้าง สำหรับอาหารจานเดียวประเภทนี้ ให้รักษาสมดุลระหว่างสีสันและเนื้อพื้นผิวในอาหารเหล่านี้

วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ศิลปะการตกแต่งจานอาหาร



การจัดจานเป็นเรื่องของการแสดงอาหารเพื่อเพิ่มความต้องการอาหารและสร้างความประทับใจให้นักทานของคุณ เรียนรู้พื้นฐานการจัดวาง เทคนิคการจัดวางแบบเอเชีย และเคล็ดลับในการให้แรงบันดาลใจเพื่อสร้างสรรค์จานอาหารของคุณเอง

    วันนี้เรามาเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับพื้นฐานศิลปะการตกแต่งจานอาหารกันเถอะ 

การจัดวางแบบคลาสสิก


เทคนิคการจัดวางแบบคลาสสิกจะใช้อาหารพื้นฐาน 3 อย่างคือ แป้ง ผักและอาหารหลัก ในการจัดวางที่เฉพาะเจาะจง แนวทางง่ายๆ ในการจัดจานแบบคลาสสิกคือคิดว่าจานอาหารเป็นหน้าปัดนาฬิกา



องค์ประกอบพื้นฐานของการจัดจาน 5 ข้อ


สร้างโครงร่าง
เริ่มต้นที่การวาดรูปและสเกตซ์เพื่อให้เห็นภาพจานอาหารที่ต้องการ ค้นหาแรงบันดาลใจจากรูปภาพหรือสิ่งของต่างๆ รวมจาน ฝึกเข้าด้วยกันเพื่อช่วยในการจัดการทำภาพในความคิดของคุณออกมา

เรียบง่ายเข้าไว้
เลือกส่วนผสมขึ้นมา 1 อย่างที่คุณต้องการเน้นและใช้พื้นที่ว่างเพื่อทำให้การแสดงอาหารดูเรียบง่าย ความระเกะระกะจะเบนความสนใจของนักทานออกจากองค์ประกอบหลักของอาหารของคุณและอาจทำให้นักทานสับสนว่าจะให้ความสนใจกับอะไรอีกด้วย

สร้างสมดุลบนจาน
เล่นสี รูปทรงและเนื้อพื้นผิวเพื่อให้มั่นใจว่านักทานจะไม่รู้สึกว่าเยอะเกินไป การจัดแสดงอาหารไม่ควรกลบรสชาติและประโยชน์ของอาหารนั้น

ใช้ขนาดสัดส่วนที่ถูกต้อง
ทำให้แน่ใจว่าส่วนผสมมีปริมาณที่ถูกต้องและตัวจานช่วยเติมเต็มให้อาหารสมบูรณ์โดยมีขนาดไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป ใช้สัดส่วนโปรตีน คาร์โบไฮเดรตและผักที่ถูกต้องเพื่อสร้างสรรค์อาหารที่ได้สมดุลตามโภชนาการ

เน้นส่วนผสมหลัก
ทำให้แน่ใจว่าส่วนผสมหลักมีความโดดเด่นออกมาและให้ความสำคัญกับ ตัวสนับสนุนอื่นๆ อย่างเท่าเทียมกัน ตัวสนับสนุนนี้หมายถึงองค์ประกอบอื่นๆ บนจานเช่น ของตกแต่งจาน ซอสและแม้กระทั่งตัวจานเอง

______________________________________________________________________________

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

บุกเบิกความอร่อย


ยินดีต้อนรับสู่รั้วอาหารไทย

                                                       ที่มา : MrFoodandTravel
ความหมายของอาหาร

         อาหาร หมายถึง สิ่งที่เรารับประทานเข้าไปแล้วทำให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายในด้านต่างๆ ไม่ทำให้เกิดโทษ เช่น เนื้อสัตว์ ข้าว แป้ง ผัก ผลไม้ นม ฯลฯ ยกเว้นยารักษาโรค 
อาหารที่เรารับประทาน ได้แก่   เนื้อสัตว์  ข้าว แป้ง  ผัก  ผลไม้้  และไขมัน

ความสำคัญของอาหาร

          อาหารเป็นปัจจัยหนึ่งที่จำเป็นต่อชีวิต  ที่ช่วยทำให้ร่างกายเจริญเติบโต  แข็งแรง  สมบูรณ์  สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆได้

อาหารแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ

* อาหารคาว คือ อาหารที่ทานกับข้าวสวยหรือข้าวเหนียว เช่น ผัด แกง ต้ม
* อาหารหวาน คือ ของว่างที่รับประทานหลังจากรับประทานอาหารคาวเสร็จแล้ว เช่น ขนมต่างๆ

รสชาติ
     หมายถึง ลักษณะเฉพาะของอาหารที่รับรู้ได้ด้วยลิ้น รสชาติจำเป็นจะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติ 3 ประการได้แก่

1. รสชาตินั้นจะต้องแตกต่างไปจากรสชาติอื่นๆอย่างสิ้นเชิง เช่น รสหวานไม่เหมือนรสเปรี้ยว
2. รสชาตินั้นจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากการผสมรสชาติชนิดอื่นๆ เช่น เกลือผสมน้ำตาลไม่ทำให้เกิดรสขม
3. รสชาตินั้นจะต้องเป็นรสชาติที่เกิดขึ้นได้จากองค์ประกอบที่อยู่ในอาหาร เช่น รสเค็มเกิดจากเกลือแกง รสหวานเกิดจากน้ำตาล รสเปรี้ยวเกิดจากน้ำส้มสายชู รสขมจากมะระ และรสอูมามิเกิดจากโมโนโซเดียมกลูตาเมต (ผงชูรส)
นอกเหนือไปจากคุณสมบัติ 3 ประการของรสชาติแล้ว การมีอยู่จริงของรสชาติแต่ละชนิดสามารถยืนยันได้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์หลายชนิด เช่น ตัวรับรสชาติ (Taste Receptor) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญบนผิวเซลล์ที่สามารถจับตัวกับสารให้รสชาติอย่างจำเพาะเจาะจงแล้วส่งสัญญาณไปยังสมองเพื่อบอกว่ากำลังรับประทานอาหารที่มีรสชาติเป็นอย่างไร

       ในตำราสมุนไพรไทยโบราณได้ระบุไว้ว่ารสชาติมี 9 ชนิด ได้แก่ รสเปรี้ยว รสหวาน รสเค็ม รสขม รสฝาด รสมัน รสเผ็ดร้อน รสหอมเย็น และรสเมาเบื่อ และอาจเพิ่มรสจืด (ไม่มีรสชาติ) เป็นรสชาติที่ 10 ก็ได้

รสชาติอาหารไทย ได้จากไหน

         อาหารไทย เป็นอาหารที่มีรสชาติกลมกล่อม ซึ่งนอกจากวัตถุดิบหลากหลายที่ใช้ในการปรุงอาหารไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ผักและสมุนไพรต่างๆแล้ว เครื่องปรุงรสยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รสชาติอาหารดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งเครื่องปรุงรสที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

รสเค็ม

  จากน้ำปลาเป็นส่วนใหญ่ การประกอบอาหารไทยเกือบทุกชนิด ถ้าต้องการรสเค็มแล้ว
จะขาดน้ำปลาไม่ได้เลย สังเกตจากเวลารับประทานอาหาร จะต้องมีถ้วยน้ำปลาเล็ก ๆ รวมอยู่ในสำรับอาหารแต่บางครั้งนอกจากน้ำปลาแล้วยังใช้เกลือหรือซีอิ๊วขาวเป็นตัวปรุงรสอาหารให้เกิดความเค็ม


รสหวาน

  การประกอบอาหารไทยรสหวาน โดยทั่วไปในอาหารไทยใช้น้ำตาลทรายในการประกอบอาหารแล้ว ยังมีน้ำตาลอีกหลายชนิด เช่น น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลโตนด น้ำตาลงบ ฯลฯ
รสเปรี้ยว
อาหารไทยนอกจากจะได้จากน้ำส้มสายชู แล้วยังมีมะนาว และที่นำมาใช้ประกอบอาหารกันมาก โดยที่
ประเทศอื่น ๆ ไม่มีใช้ก็คือ ความเปรี้ยวที่ได้จากน้ำส้มมะขามเปียก น้ำมะกรูด น้ำส้มซ่า นอกจากนั้นรสเปรี้ยวจากใบมะขามอ่อน ใบมะดัน ใบส้มป่อย มะดัน ซึ่งรสเปรี้ยวจากสิ่งเหล่านี้มีแต่ในอาหารไทย

รสเผ็ด
  
  รสชาติอาหารของประเทศใดก็ไม่เผ็ดร้อนเหมือนอาหารไทย รสเผ็ดที่ได้จากอาหาร มาจากพริกขี้หนูพริกชี้ฟ้าสด เรายังนำมาตากแห้งเป็นพริกแห้ง คั่วแล้วป่นเป็นพริกป่น รสเผ็ดเป็นรสที่อาหารไทยจะขาดไม่ได้ในการประกอบอาหารคาวชนิดที่ต้องมีรสเผ็ด การจะใส่พริกมากน้อยขึ้นอยู่กับความต้องการรสของผู้บริโภค

รสมัน

  อาหารไทย ได้รสมันจากกะทิและน้ำมันเป็นส่วนใหญ่ ในการประกอบอาหารไทยโดยเฉพาะอาหารประเภทแกงกับขนมไทย ความมันที่ได้จะมาจากแกงที่ใส่กะทิ เช่นแกงหมูเทโพ แกงเขียวหวาน ขนมชั้น ตะโก้ ฯลฯ ฉะนั้นรสชาติของอาหารไทย จึงมีความกลมกล่อมจากรสชาติต่าง ๆ