ปลาทูต้มหวานทำง่าย เก็บไว้กินได้นาน
เพราะว่ายิ่งอุ่น ยิ่งเคี่ยว ยิ่งนานก็ยิ่งอร่อย เพราะน้ำจะซึมเข้าตัวปลา
ก้างปลาจะนิ่ม กินง่าย แค่มีข้าวสวยร้อน ๆ ก็พร้อมกินแล้ว
ส่วนวิธีทำก็ไม่ยากอะไรเลย เป็นแค่การต้มไม่ซับซ้อน และหลายขั้นตอน
เหมาะสำหรับแม่บ้านยุคใหม่ ไม่ต้องมาคอยเฝ้า พลิกกลับอาหาร หรือต้องคอยคนบ่อย ๆ
วัตถุดิบก็ไม่มีอะไรเยอะ ดัดแปลงมา รสชาติใช้ได้ รวม ๆ คล้ายปลาทูต้มอ้อย
ปลาทูต้มส้ม แต่นี่เราใส่น้ำตาลปี๊บเยอะหน่อยเลยกลายเป็นปลาทูต้มหวานนั่งเอง
รู้อย่างนี้แล้วกด็ลงมือทำกันเลยดีกว่าค่ะ
ที่ต้องเตรียม
ปลาทูสด 1 กิโลกรัม
น้ำตาลปี๊บ 2 ขีด
พริกไทยเม็ด 50 กรัม
ขิงสด 1 ขีด (หรือ 1 เหง้าก็พอ แต่ถ้าชอบก็เพิ่มได้)
หอมแดง 1 ขีด
เกลือป่น หยิบมือ
มะขามเปียก ประมาณ 1 ขีด (หรือน้อยกว่านั้น)
ตะไคร้ 2 หัว (ไม่มีไม่ได้ใส่ )
ปลาทูสด 1 กิโลกรัม
น้ำตาลปี๊บ 2 ขีด
พริกไทยเม็ด 50 กรัม
ขิงสด 1 ขีด (หรือ 1 เหง้าก็พอ แต่ถ้าชอบก็เพิ่มได้)
หอมแดง 1 ขีด
เกลือป่น หยิบมือ
มะขามเปียก ประมาณ 1 ขีด (หรือน้อยกว่านั้น)
ตะไคร้ 2 หัว (ไม่มีไม่ได้ใส่ )
>วิธีทำเครื่องปรุงเอาเท่าที่มี ตามภาพ
ทุบขิงพอหยาบ พริกไทยบุบพอแตก
หอมแดงผ่าซีกหรือใส่ทั้งหัวก็ได้ หากมีตะไคร้ก็ทุบ ๆ แล้วหั่นยาวหน่อย
รองไว้ก้นหม้อ ถ้าไม่มีเลยไม่ใส่ก็ได้
นำปลาทูที่ควักไส้และล้างสะอาดแล้วใส่ลงไป
(เรียงไม่สวย ปลาแช่แข็งตัวเล็กไปหน่อยรอบนี้ แถมไม่สด ทำให้ต้มแล้วท้องปลาเละ)
คั้นน้ำมะขามเปียก
กะปริมาณน้ำให้ท่วมตัวปลา เทตามลงไป (ที่ใส่น้ำมะขามเปียก คือตัดรสหวาน
จะได้ไม่หวานเลี่ยน รสชาติจะอร่อยมีรสอมเปรี้ยวนิด)
ยกขึ้นตั้งไฟ รอให้เดือด
แล้วหรี่ไฟให้อ่อนสุด แค่ให้น้ำเดือดปุด ๆ พอ ไม่ต้องให้เดือดพล่าน
ไม่ต้องปิดฝาหม้อ ไม่ต้องคน รอจนน้ำงวด
ใช้เวลาในการเคี่ยวนานหน่อย
น้ำและส่วนผสมต่าง ๆ จะซึมเข้าตัวปลาเรื่อย ๆ ลองชิมดูว่า หวานพอใจเราหรือยัง
(เติมได้) เค็มหรือจืดไปไหม (เติมได้) ปรุงได้ ไม่ต้องตามสูตรเป๊ะ รสที่ได้จะ หวาน
ๆ อมเปรี้ยวนิด ๆ เผ็ดลิ้นแบบกลมกล่อมด้วยขิงและพริกไทย
แค่นี้ก็ได้ปลาทูต้มหวานที่อร่อย ๆ แล้ว ยิ่งอุ่นบ่อยยิ่งเข้าเนื้อยิ่งอร่อย
แค่นี้ก็ได้ปลาทูต้มหวานที่อร่อย ๆ แล้ว ยิ่งอุ่นบ่อยยิ่งเข้าเนื้อยิ่งอร่อย
ขอขอบคุณข้อมูล http://cooking.kapook.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น