วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ปลาทูต้มหวานทำง่าย เก็บไว้กินได้นาน เพราะว่ายิ่งอุ่น ยิ่งเคี่ยว ยิ่งนานก็ยิ่งอร่อย เพราะน้ำจะซึมเข้าตัวปลา ก้างปลาจะนิ่ม กินง่าย แค่มีข้าวสวยร้อน ๆ ก็พร้อมกินแล้ว ส่วนวิธีทำก็ไม่ยากอะไรเลย เป็นแค่การต้มไม่ซับซ้อน และหลายขั้นตอน เหมาะสำหรับแม่บ้านยุคใหม่ ไม่ต้องมาคอยเฝ้า พลิกกลับอาหาร หรือต้องคอยคนบ่อย ๆ วัตถุดิบก็ไม่มีอะไรเยอะ ดัดแปลงมา รสชาติใช้ได้ รวม ๆ คล้ายปลาทูต้มอ้อย ปลาทูต้มส้ม แต่นี่เราใส่น้ำตาลปี๊บเยอะหน่อยเลยกลายเป็นปลาทูต้มหวานนั่งเอง รู้อย่างนี้แล้วกด็ลงมือทำกันเลยดีกว่าค่ะ


ที่ต้องเตรียม

           ปลาทูสด 1 กิโลกรัม

          น้ำตาลปี๊บ 2 ขีด

           พริกไทยเม็ด 50 กรัม

           ขิงสด 1 ขีด (หรือ 1 เหง้าก็พอ แต่ถ้าชอบก็เพิ่มได้)

           หอมแดง 1 ขีด

           เกลือป่น หยิบมือ

           มะขามเปียก ประมาณ 1 ขีด (หรือน้อยกว่านั้น)

           ตะไคร้ 2 หัว  (ไม่มีไม่ได้ใส่ )

>วิธีทำเครื่องปรุงเอาเท่าที่มี ตามภาพ
           ทุบขิงพอหยาบ พริกไทยบุบพอแตก หอมแดงผ่าซีกหรือใส่ทั้งหัวก็ได้ หากมีตะไคร้ก็ทุบ ๆ แล้วหั่นยาวหน่อย รองไว้ก้นหม้อ ถ้าไม่มีเลยไม่ใส่ก็ได้
           นำปลาทูที่ควักไส้และล้างสะอาดแล้วใส่ลงไป (เรียงไม่สวย ปลาแช่แข็งตัวเล็กไปหน่อยรอบนี้ แถมไม่สด ทำให้ต้มแล้วท้องปลาเละ)
           คั้นน้ำมะขามเปียก กะปริมาณน้ำให้ท่วมตัวปลา เทตามลงไป (ที่ใส่น้ำมะขามเปียก คือตัดรสหวาน จะได้ไม่หวานเลี่ยน รสชาติจะอร่อยมีรสอมเปรี้ยวนิด)
         ยกขึ้นตั้งไฟ รอให้เดือด แล้วหรี่ไฟให้อ่อนสุด แค่ให้น้ำเดือดปุด ๆ พอ ไม่ต้องให้เดือดพล่าน ไม่ต้องปิดฝาหม้อ ไม่ต้องคน รอจนน้ำงวด 
           ใช้เวลาในการเคี่ยวนานหน่อย น้ำและส่วนผสมต่าง ๆ จะซึมเข้าตัวปลาเรื่อย ๆ ลองชิมดูว่า หวานพอใจเราหรือยัง (เติมได้) เค็มหรือจืดไปไหม (เติมได้) ปรุงได้ ไม่ต้องตามสูตรเป๊ะ รสที่ได้จะ หวาน ๆ อมเปรี้ยวนิด ๆ เผ็ดลิ้นแบบกลมกล่อมด้วยขิงและพริกไทย 

          แค่นี้ก็ได้ปลาทูต้มหวานที่อร่อย ๆ แล้ว ยิ่งอุ่นบ่อยยิ่งเข้าเนื้อยิ่งอร่อย

ขอขอบคุณข้อมูล  http://cooking.kapook.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น